จัดฟันแบบใส

1. ปรึกษาเคสกับทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เอกซเรย์ และถ่ายรูปช่องปาก
เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการประเมินและวางแผนการจัดฟันแบบใสที่เหมาะสม เฉพาะคนไข้แต่ละราย

2. เคลียร์ช่องปาก เตรียมพร้อมการใส่เครื่องมือจัดฟัน
ในแต่ละคนจะแตกต่างกัน ขึ้นกับสุขภาพฟัน อาจมีการขูดหินปูน อุดฟัน หรือผ่าฟันคุดในกรณีที่ทันตแพทย์เห็นว่ามีความจำเป็นที่อาจกระทบหรือขัดขวางการจัดฟัน
3. สแกนเหงือกและฟัน ด้วยเทคโนโลยีแบบ 3 มิติ 
เพื่อจำลองตำแหน่งฟันในช่องปาก ใช้ประกอบการวางแผนการจัดฟันแบบใสได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ยังสามารถแสดงภาพจำลองของเหงือกและฟัน เปรียบเทียบระหว่างก่อนและหลังจากจัดฟันแบบเสร็จแล้ว เพื่อให้คนไข้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงและผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นก่อนเริ่มการจัดฟัน

4. ใส่เครื่องมือจัดฟันแบบใส
ทันตแพทย์จะนัดหมายให้เข้ามาใส่เครื่องมือจัดฟันใส และแจ้งข้อควรปฏิบัติต่างๆ  และทำการนัดหมายเพื่อติดตามความคืบหน้า รวมถึงเปลี่ยนชุดเครื่องมือจัดฟันใสเป็นชุดถัดไป

5. ใส่รีเทนเนอร์เพื่อคงสภาพฟัน

เมื่อเสร็จสิ้นการจัดฟันแบบใส สิ่งสุดท้ายคือการใส่รีเทนเนอร์เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของฟัน คนไข้ควรสวมใส่เป็นประจำ และปฏิบัติตามที่ทันตแพทย์แนะนำ เพื่อให้ฟันยังคงเรียงตัวสวยงามอยู่ตลอดเวลา

1. รับประทานอาหารได้ง่าย
เครื่องมือจัดฟันแบบใสสามารถถอดออกได้ ช่วยให้การทานอาหารในแต่ละมื้อไม่ยุ่งยาก ไร้อุปสรรค และไม่ต้องจำเป็นต้องคอยระวังเหล็กจัดฟันหลุดเหมือนการจัดฟันเหล็กทั่วไป 
2. แทบจะมองไม่เห็นตัวเครื่องมือเลย เพราะเป็นพลาสติกโปร่งใส
ช่วยให้โชว์รอยยิ้มได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกังวลว่าสีโลหะของเหล็ดจัดฟันจะดูสะดุดตา ไม่สวยงาม 

3. ทำความสะอาดง่าย 
ดูแลความสะอาดช่องปากได้เหมือนคนทั่วไปที่ไม่ได้จัดฟัน สามารถแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันขจัดเศษอาหารได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายซื้อแปรงซอกฟันแบบพิเศษ
 
4.ไม่มีแผลหรือความเจ็บปวดในช่องปากและกระพุ้งแก้ม

เนื่องจากไม่ต้องติดเครื่องมือจัดฟันและลวดที่เป็นเหล็ก เครื่องมือจัดฟันแบบใสจะไม่ก่อให้เกิดความรำคาญใดๆ สามารถพูดคุยหรือทำกิจกรรมต่างๆได้อย่างสะดวก ไม่ต้องกังวลเรื่องลวดทิ่มกับกระพุ้งแก้มจนเกิดแผล

5.พูดชัดได้ตามปกติ 

อาจจะมีแค่ช่วง 2-3 วันแรกที่ต้องปรับตัวให้ชินกับการใส่เครื่องมือเล็กน้อย หลังจากคุ้นเคยแล้วจะสามารถออกเสียงได้ชัดเจนเหมือนก่อนหน้านี้ที่ยังไม่ได้ใส่เครื่องมือจัดฟันใส

จัดฟันแบบใสเหมาะกับใคร

• ดารา นักแสดง ผู้บริหาร หรือ ผู้ที่ไม่ต้องการให้ใครสังเกตเห็นเหล็กจัดฟันโลหะ เนื่องจากมีความกังวลในเรื่องภาพลักษณ์ หรือบุคลิกภาพ
• ผู้ที่อยากทานอาหารได้อย่างสบายใจ ไม่อยากให้การจัดฟันมาเป็นอุปสรรคในการรับประทานอาหาร
• ผู้ที่ต้องการใช้ชีวิตง่ายๆในแบบเดิม ไม่อยากทำความสะอาดฟันด้วยขั้นตอนที่ยุ่งยากเพิ่มขึ้น
• ผู้ที่มีภารกิจมาก ไม่ค่อยสะดวกในการพบทันตแพทย์บ่อยๆ โดยเฉลี่ยจะนัดทุก 3 เดือน (เทียบกับการจัดฟันแบบโลหะที่นัดทุก 1 เดือน)
• ผู้ที่มีปัญหาฟันไม่ซับซ้อนรุนแรง (ทันตแพทย์จะเป็นผู้ประเมินในส่วนนี้)